เมื่อคัดแม่ไม้ได้ต้นที่ต้องการแล้ว ขั้นต่อไปก็คือ การตรวจสอบความสมบูรณ์ของเมล็ดก่อนเก็บ เพื่อให้เราได้เมล็ดไม้ที่สมบูรณ์และยังมีชีวิตสามารถงอกได้ เมื่อเรานำไปเพาะครับ การเก็บเมล็ดควรเก็บช่วงที่เมล็ดเริ่มแก่หรือร่วงจากต้นไม่นาน แต่ถึงจะเก็บในช่วงเวลานี้ ก็ยังคงต้องตรวจสอบความสมบูรณ์ของเมล็ด ว่าแม่ไม้ต้นที่เราเลือกให้เมล็ดที่มีคุณภาพหรือไม่
หลายคนคงนึกไม่ถึงหรือไม่ทันนึก พอเจอต้นแม่ไม้เข้าตามตำรา ผลกำลังแก่หรือร่วง ก็รีบเก็บใส่ถุงทันที มาถึงก็จัดการเพาะ แต่ทำไมไม่งอกสักต้นหรืองอกน้อย บางคนพลอยไปโทษตังเองว่า ฝีมือไม่ดี แต่แท้จริงแล้วการงอกของเมล็ดมีปัจจัยหลายอย่าง โดยความสมบูรณ์ของเมล็ดเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกๆ ที่ทำให้เมล็ดงอกเป็นต้นกล้าครับ ผมจึงของเอาเข้าในหลักสูตรเพื่อให้นักเรียนปลูกป่า ทุกคนได้ตระหนักและทำทุกครั้งก่อนลงมือเก็บ
ต้นไม้หลายชนิด เมื่อระบบนิเวศเปลี่ยนไปรังไข่ก็จะฝ่อ บางต้นขาดแมลงหรือสัตว์ช่วยผสมเกสร ก็ทำให้ไม่เกิดการผสมพันธุ์ บางชนิดโดนแมลงไปวางไข่ไว้ตั้งแต่ดอกบาน เช่น ยางนา ยางเหียง เมื่อแก่และร่วง เราจะดูไม่ออกเลยว่าเมล็ดนั้นเสียแล้ว ดังนั้นก่อนจะเก็บควรจะตรวจสอบชีวิตของเมล็ด ให้ได้ เมล็ดที่สมบูรณ์ 60% ขึ้นไป โดยวิธีดังนี้
กลุ่มเมล็ดแข็งมาก ไม่สามารถผ่า ตัด เฉือนได้โดยง่าย พวกนี้มักจะหนักกว่าน้ำ หากมีน้ำไปด้วย อาจจะลองแช่น้ำ ถ้าจมก็ถือว่าผ่าน หากไม่มีน้ำให้สังเกตผิวว่ามีลอยเจาะ รู หรือบิดเบี้ยวหรือไม่ ได้แก่ มะค่าโมง มะค่าแต้ สวาด หลุมพอ เป็นต้น
กลุ่มเมล็ดไม่แข็งมาก สามารถตัด ผ่า เฉาะ หักเด็ด พวกนี้ให้ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อดูเนื้อเมล็ดข้างใน ปกติเนื้อเมล็ดจะมีสีขาว เหลือง เขียว แล้วแต่ชนิดและมีความความสด ไม่แห้งกรอบ หากทำแล้วเจอเมล็ดที่มีชีวิตเกิน 60% ของตัวอย่างที่สุ่มมา ถือว่าลงมือเก็บได้
ปกติแล้วผมจะนำมา 50 -100 เมล็ด มาพิสูจน์เพื่อความมั่นใจ อีกประเด็นคือต้นไหนเคยไม่สมบูรณ์ก็จะไม่สมบูรณ์ตลอด เราจึงเลือกเก็บจากต้นที่เราคัดแม่ไม้และตรวจสอบเมล็ดแล้วเท่านั้น
ที่มา : อ.นพพร นนทภา
Hozzászólások